เมื่อเวลา 08.00 น.ของวันนี้ (5 ต.ค.) นายกริชสยาม คงสตรี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์เว็บสล็อตแตกง่าย อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เผยถึงอากาศบนดอยอินทนนท์วันนี้ว่า อุณหภุมิลดลงอย่างรวดเร็ว ที่ยอดดอยอุณหภูมิวัดได้ 5 องศาเซลเซียส ที่กิ่วแม่ปานจุดชมวิว วัดได้ 10 องศาเซลเซียส และที่จุดทำการอุทยานแห่งชาติวัดได้ 15 องศาเซลเซียส
อากาศวันนี้ มีเฆมบางส่วน แต่ยังมีนักท่องเที่ยวทยอยขึ้นมาสัมผัสอากาศหนาวอย่างต่อเนื่อง
พร้อมทั้งชมพระอาทิตย์ยามเช้า แสงแรกแห่งการเข้าฤดูหนาวซึ่งสวยงามเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีทะเลหมอกตัดกับแสงอาทิตย์ด้วย นายกริชสยาม กล่าวต่ออีกว่า นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมพืชพันธุ์ต่าง ๆ ตามธรรมชาติ และชมดอกไม้ฤดูหนาวที่กำลังเริ่มออกดอกบางดอกก็เริ่มเบ่งบาน โดยสถิตินักท่องเที่ยวเมื่อวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวคนไทย 3,472 คน ชาวต่างชาติ 494 คน ยานพาหนะ 881 คัน รวมนักท่องเที่ยว 3,966 คน
โดย นายกริชสยาม ระบุว่าทางอุทยานแห่งชาติได้เตรียมพร้อมรับมือกับนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นมาในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ตามจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ ไว้แล้ว และมีเจ้าหน้าที่อยู่ประจำจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ อาทิ น้ำตกแม่กลาง, แม่ยะ, วชิระธาร, ฯลฯ เพื่อคอยอำนวยความสะดวกและให้คำแนะนำ เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว รวมทั้งเรื่องการจราจร จุดจอดรถก็ได้มีการเตรียมความพร้อมอยู่แล้ว แม้ว่าวันนี้จะยังไม่เกิดแม่คะนิ้งและต้องรอลุ้นกันต่อไป แต่คาดว่าจะเกิดแม่คะนิ้งเร็ว ๆ นี้แน่นอน เนื่องจากช่วงนี้อากาศหนาวมาเร็ว
เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา มีรายงานจากนักท่องเที่ยว ซึ่งได้ไปเดินเยี่ยมชมอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งในบริเวณ วัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดหลวงพระราชวังโบราณ มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศจำนวนมาก
นักท่องเที่ยวที่ร้องเรียนเล่าว่า ป้ายข้อมูลตามบริเวณสถานที่ต่างๆ ภายในวัดพระศรีสรรเพชญ์ เลือนราง เป็นอย่างมาก จนไม่สามารถอ่านหาข้อมูลได้ บางป้ายหลุดออกมีแต่แผ่นปูน
ผู้ที่ท่องเที่ยวศึกษาประวัติศาสตร์ได้พยายามที่จะอ่านข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ แต่ป้ายเลือนรางมาก บางป้ายหลุดออกมีแต่แผ่นปูน ทำให้ไม่รู้ว่าสถานที่แต่ละแห่งมีชื่อว่าอะไร และมีประวัติความเป็นมาอย่างไร ซึ่งไม่เอื้อต่อการศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวและผู้สนใจแต่อย่างใด
สาวโพสต์เตือนอุทธาหรณ์ ซื้อโจ๊กถุงระวังได้ของแถมเป็นหมึกปากกา
เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Wirintorn Diloktharadol ได้โพสต์ภาพโจ๊กบรรจุถุงร้อนที่มีปากกาเขียนเป็นสีชมพูตัวใหญ่ว่า ‘ไข่’ โดยระบุข้อความว่า ‘ตั้งสติ ก่อนกินโจ๊กที่ซื้อกลับบ้าน เห็นสีชมพูในถุงมั้ย หมึกจากปากกาเมจิกค่ะ หมึกปากกา!!!! ระวังไว้เสมอ ถ้าซื้อโจ๊กกลับบ้านแล้วที่ร้านใช้ปากกาเมจิกเขียนที่ถุง หมึกมันอาจจะซึมเข้าไปในโจ๊กได้ น่ากลัวมากกกกก’
ภาพในถุงที่โพสต์เผยให้เห็นว่าภายในดูมีสีออกส้มๆ เหมือนสีของใข่แดง แต่เมื่อแกะถุงเทออกมา สีส้มๆ ที่เห็นกลับไม่ใช่ใข่ แต่เป็นสีของปากกาหมึกซึมที่เขียนบนถุงและทะลุลงไปอยู่บนเนื้อโจ๊ก เจ้าตัวก็ถึงกับอารมณ์เสีย และได้เขียนระบุด้วยว่า ‘เป็นอุทาหรณ์สำหรับร้านอาหารด้วยน้า อย่าเขียนอะไรไว้ที่บรรจุภัณฑ์เลยนะคะ มันซึมลงไปในอาหารได้ ที่มาของคำว่า ปากกาหมึกซึม ที่แท้ทรู’ ซึ่งหลังจากโพสต์นี้ถูกเผยแพร่ออกไปก็มีการแชร์ในโลกออนไลน์กันกว่าพันครั้ง
ทั้งนี้ ในปากกามาร์กเกอร์เขียนไวท์บอร์ดเช่นนี้ มีสารอันตราย อาทิ methyl isobutyl ketone, Xylene และ Toluene ซึ่งหากโดนผิวหนังอาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองแพ้และแสบได้ นอกจากนี้ยังมีผลร้ายต่อระบบประสาท ตับ ไต และระบบทางเดินหายใจ โดยมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันมีการเปิดเผยข้อมูลว่า ปากกาเคมีนี้สามารถส่งผลให้เกิดอาการซึม ปวดหัว มึนหัว คลื่นไส้ และในกรณีร้ายแรงอาจทำให้ระบบหายใจล้มเหลวจนถึงแก่ชีวิตได้
เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา กู้ภัยกระบี่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.กระบี่ใหญ่ อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ให้ไปช่วยจับงูขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ในท่อน้ำของหมู่บ้าน หลังได้รับแจ้ง ทีมมูลนิธิกระบี่พิทักษ์ประชา ได้เข้าไปให้การช่วยเหลือ โดยได้ขอเจ้าที่เจ้าทาง ก่อนจะมุดท่อระบายน้ำด้วยความยากลำบากและอันตราย ที่ทั้งต้องใช้ความระวังและไวมาก โดยภารกิจใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง กว่าจะจับงูดังกล่าวได้สำเร็จ ทางทีมพบว่า งูตัวดังกล่าวเป็นงูจงอางขนาดใหญ่ ลำตัวยาวประมาณ 4 เมตร และมีน้ำหนักถึง 15 กิโลกรัม
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน เผยภายหลังจากจับงูจงอางยักษ์ดังกล่าวได้สำเร็จว่า งูตัวดังกล่าวแอบอยู่ในท่อน้ำ และชอบเลื้อยขึ้นมาบนสนามหญ้าในหมู่บ้าน สร้างความตื่นกลัวให้แก่ผู้พักอาศัย จึงต้องแจ้งให้อาสาสมัครกู้ภัยมาช่วยจับไป
ล่าสุด ข่าวช่อง 3 รายงาน นางมณีรัตน์ได้ไปตรวจเลือดที่คลินิกนิรนาม สภากาชาดไทยย้ำอีกครั้ง ผลยังเป็นลบ ยืนยันว่าเธอไม่ได้ติดเชื้อ HIV
จาก 3 การทดลองพบว่ามีเพียงเจลอบาเมคติน (Abamectin Gel) ที่พอจะมีผลในการลดจำนวนแมลงสาบ แต่ก็ใช้ได้กับในพื้นที่ที่มีแมลงสาบไม่มากนัก ส่วนในพื้นที่ที่มีมากก็ใช้ไม่ได้ผลเช่นกัน เพราะจำนวนของมันเพิ่มอย่างรวดเร็วหลังการทดลอง ส่วนยาฆ่าแมลงในแบบอื่นๆ นั้น ผลการทดลองชี้ว่าไม่สามารถทำอะไรแมลงสาบได้เลย แถมยังพบมันมีจำนวนมากขึ้นเสียด้วยซ้ำเว็บสล็อต , สล็อตแตกง่าย